The Holy Man 2 (2008) หลวงพี่เท่ง 2

ดูหนัง The Holy Man 2 (2008) หลวงพี่เท่ง 2

เรื่องย่อ หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย (2008) เป็นภาคต่อของหนังตลกชื่อดัง หลวงพี่เท่ง ที่มี เท่ง เถิดเทิง รับบทเป็นพระหนุ่มผู้ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวตลกๆ และความท้าทายในชีวิต โดยภาคนี้ คุณโน้ต เชิญยิ้ม ยังคงรับหน้าที่ผู้กำกับ แต่ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวละครหลักจาก เท่ง เถิดเทิง มาเป็น โจอี้บอย (ธนัท อนันต์ชัย) นักร้องชื่อดัง ที่มารับบท พระโจอี้ ซึ่งนำมาซึ่งคำถามและการเปรียบเทียบระหว่างภาค 1 และ 2

เนื้อเรื่องของภาคนี้ยังคงติดตามการเดินทางของหลวงพี่เท่ง (โจอี้บอย) ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ในวัด พร้อมทั้งการค้นหาความร่ำรวยของตัวเอง ผ่านเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตลกขบขัน แต่ก็ยังไม่ขาดความสอดแทรกธรรมะและข้อคิดในการใช้ชีวิต

รีวิวหนัง The Holy Man 2 (2008) หลวงพี่เท่ง 2

ภาค 2 ของ หลวงพี่เท่ง มาในแนวทางที่ค่อนข้างพยายามให้ฮามากขึ้นและมีการพัฒนาภาพยนตร์จากภาคแรกในเรื่องการถ่ายทำ โดย การถ่ายภาพ ในภาคนี้ถือว่าทำได้ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในฉากที่ถ่ายทอดแสงธรรมชาติ เช่น ภาพแสงแห่งตะวันที่สวยงามในตอนเช้าและเย็น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลิดเพลิน

ในส่วนของมุกตลก แม้ว่าจะยังคงมีมุขเก่าๆ จากภาคแรก เช่น มุกใส่บาตรที่ทำให้พระพูดคุยกันจนไม่ได้ใส่บาตรสักที ซึ่งเป็นมุกที่มีในหลายๆ เรื่องแล้ว แต่ก็ยังคงทำให้คนดูหัวเราะได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความฮาของภาคนี้อาจจะดูน้อยกว่าภาคแรก เนื่องจากมุกบางอันดูไม่สดใหม่ หรือไม่ค่อยน่าขำเท่าที่ควร เช่น มุกที่พระโจอี้ต้องใส่หมวกแปลกๆ เพื่อป้องกันก้อนหินตกใส่หัว หรือมือปืนที่แต่งตัวเลียนแบบหนังฝรั่ง ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่ขำ โจอี้บอย แม้ว่าจะเป็นนักร้องชื่อดัง แต่การเล่นบทพระในภาคนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่ากับ เท่ง เถิดเทิง ที่มีความเป็นนักแสดงตลกเต็มตัว แม้จะพยายามทำให้มุกตลกดูขำ แต่บางครั้งก็ยังดูไม่ค่อยเชื่อมโยงกับตัวละครในเรื่อง ทำให้ความสนุกในการรับชมลดลงไปบ้าง

ในแง่ของ ธรรมะ ภาพยนตร์ยังคงแทรกแง่คิดดีๆ เกี่ยวกับการทำดีและความสำคัญของศาสนา เช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม หรือทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว รวมถึงการแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าศาสนาไหนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกเรื่องราวของสามศาสนาในหมู่บ้านเดียวกันอย่างพุทธ อิสลาม และคริสต์ ซึ่งถือเป็นจุดที่มีคุณค่าทางจิตใจที่สำคัญ

ข้อดี

การถ่ายทำที่ดีขึ้น : ภาพสวยและมีมุมกล้องที่สร้างบรรยากาศได้ดี โดยเฉพาะแสงธรรมชาติในหลายฉาก

มุขตลกที่ยังคงทำให้หัวเราะ : ถึงแม้บางมุกจะเก่า แต่ก็ยังสามารถทำให้ผู้ชมมีรอยยิ้มได้

สอดแทรกธรรมะและแง่คิดชีวิต : การแทรกธรรมะในเรื่องทำให้หนังมีความหมายมากกว่าการตลกขำขัน

ข้อเสีย

โจอี้บอยไม่ค่อยเข้ากับบทพระ : การแสดงของ โจอี้บอย อาจจะไม่ค่อยมีเสน่ห์เท่ากับ เท่ง เถิดเทิง ทำให้การเล่นบทพระไม่โดดเด่นเท่าที่ควร

มุกบางอันไม่ค่อยใหม่หรือขำ : บางมุกตลกดูซ้ำซากและไม่ค่อยสร้างความสนุกหรืออารมณ์ขันมากนัก

การเปรียบเทียบกับภาคแรก : การที่ภาค 2 ถูกเปรียบเทียบกับภาคแรกอาจทำให้ความสนุกลดลง เพราะภาคแรกทำออกมาได้ดีกว่าในหลายๆ ด้าน

สรุป
The Holy Man 2 อาจจะไม่สามารถทำให้คนดูหัวเราะได้มากเท่ากับภาคแรก แต่ยังคงมีความบันเทิงจากการแสดงของ โจอี้บอย และการถ่ายภาพที่สวยงาม พร้อมทั้งการสอดแทรกแง่คิดทางธรรมะได้อย่างดี ถึงแม้บางมุกจะดูซ้ำซากและไม่ขำมากนัก แต่ก็ยังคงเป็นหนังที่น่าสนุกและเหมาะสำหรับผู้ที่อยากคลายเครียดและรับแง่คิดดีๆ จากภาพยนตร์ไทย.